Closeup of golden Bitcoins on a dark reflective surface and the histogram of decreasing crypto

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทำการบุกตรวจค้นโกดัง 3 แห่งในจังหวัดสมุทรสาคร หลังจากได้รับข้อมูลว่ามีการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดปกติในพื้นที่ดังกล่าว ผลการตรวจสอบทำให้เจ้าหน้าที่ตะลึงเมื่อพบเครื่องขุดบิทคอยน์จำนวนถึง 1,788 เครื่อง ซึ่งจัดระเบียบวางอย่างดีในโกดังเหล่านี้

ขุดบิทคอยน์เถื่อน” ผุดกลางสมุทรสาคร 1,788 เครื่อง ดีเอสไอขยายผล! ใครคือผู้บงการตัวจริง

การบุกตรวจค้นเกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าที่ผิดปกติในพื้นที่ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขุดบิทคอยน์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก ในการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางจำนวนมากที่สุดเท่าที่มีการจับกุมมา โดยพบว่าการดำเนินการมีมาแล้วประมาณ 3 ปี ส่งผลให้รัฐเสียหายไปกว่า 500 ล้านบาท

อธิบดีดีเอสไอได้ประกาศว่า จะมีการดำเนินคดีอย่างเข้มงวดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าหรือหน่วยงานรัฐเกี่ยวข้องกับกิจกรรมนี้ จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด นอกจากนี้ยังมีการเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการลงทุนหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงในการถูกหลอกลวง

กรณีนี้สะท้อนถึงปัญหาใหญ่ของอาชญากรรมทางไซเบอร์และการใช้พลังงานอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาการใช้พลังงานและมลพิษทางอากาศ ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดความตึงเครียดในระบบไฟฟ้าและส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป

เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ดีเอสไอได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น การไฟฟ้านครหลวง และหน่วยงานด้านพลังงาน เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการใช้พลังงานในกิจกรรมที่มีความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจเพื่อทำงานร่วมกันในการติดตามและจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิด

นอกจากการดำเนินคดีแล้ว ดีเอสไอยังได้มีการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับภัยจากการลงทุนในบิทคอยน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถระมัดระวังตัวและไม่ตกเป็นเหยื่อของกลโกงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

หลังจากจับกุมผู้ต้องหาแล้ว ดีเอสไอจะมีการติดตามผลเพื่อดูว่าผู้กระทำผิดยังคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมอื่น ๆ หรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่าเครื่องที่ถูกยึดไปนั้นมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอื่น ๆ หรือไม่ นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความพยายามในการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์และการใช้พลังงานอย่างไม่เหมาะสม การร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐและความตระหนักรู้ของประชาชนจะช่วยลดความเสี่ยงจากอาชญากรรมเหล่านี้ และสร้างความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคในอนาคต

Bitcoin and a computer graphic card

ดีเอสไอ VS มาเฟียขุดบิทคอยน์เถื่อน สมุทรสาครระอุ! 1,788 เครื่องพ่นพิษเศรษฐกิจ

การขุดบิทคอยน์ในประเทศไทยกำลังเผชิญกับการตรวจสอบและควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการจับกุมเครื่องจำนวนมากในหลายจังหวัด เช่น สมุทรสาคร สุราษฎร์ธานี และฉะเชิงเทรา ซึ่งมีการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดปกติและลักลอบใช้ไฟฟ้าของรัฐ มาตรการเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินงานที่ผิดกฎหมาย

  • การตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจเพื่อทำการตรวจสอบสถานที่ที่สงสัยว่าเป็นฐานปฏิบัติการของเหมืองบิทคอยน์ โดยมีการใช้หมายศาลในการเข้าตรวจค้นโกดังหรือสถานที่ต่าง ๆ ที่มีการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดปกติ การตรวจสอบจะรวมถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาหลักฐานในการดำเนินคดี
  • การร่วมมือกับหน่วยงานพลังงาน กรมพลังงานและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ร่วมมือกับตำรวจในการเฝ้าระวังและควบคุมการใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะในกิจกรรมที่มีความเสี่ยงในการลักลอบใช้ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าในพื้นที่ที่มีรายงานการใช้ไฟฟ้าสูงผิดปกติ และดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่าย
  • การสร้างความตระหนักรู้ รัฐบาลได้มีการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในประชาชนเกี่ยวกับอันตรายจากการลงทุนในบิทคอยน์ รวมถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ การให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีป้องกันตัวเองจากกลโกงที่อาจเกิดขึ้นจะช่วยให้ประชาชนสามารถระมัดระวังตัวได้มากขึ้น
  • การออกกฎหมายใหม่ มีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะพิจารณาออกกฎหมายใหม่หรือปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลและกิจกรรมดังกล่าว เพื่อให้สามารถควบคุมและจัดการกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในเรื่องของการเก็บภาษีจากกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับรัฐ
  • การติดตามผลหลังจับกุม หลังจากมีการจับกุมผู้กระทำผิดแล้ว เจ้าหน้าที่จะติดตามผลเพื่อดูว่าผู้กระทำผิดยังคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมอื่น ๆ หรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่าเครื่องที่ถูกยึดไปนั้นมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอื่น ๆ หรือไม่
Published: By