ปรากฏการณ์ “ลานีญา” กำลังส่งผลกระทบต่อประเทศไทย โดยคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักทั่วประเทศในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน 2567 โดยมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนถึง 12% ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร
รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้วิเคราะห์ว่าสถานการณ์ฝนปีนี้จะรุนแรงกว่าปีก่อน เนื่องจากปรากฏการณ์ลานีญาที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือภาคกลางและอีสานตอนบน
คาดการณ์ว่าในช่วงกลางถึงปลายเดือนกันยายน จะมีฝนตกหนักมาก ทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมสูงถึง 2,500-2,700 ลูกบาศก์เมตร จึงจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนอย่างเหมาะสม
พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดน้ำท่วม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ภาคเหนือตอนบน และอีสานตอนบน เนื่องจากมีปริมาณฝนตกมากกว่าพื้นที่อื่นประมาณ 12%
สำหรับปริมาณน้ำในเขื่อน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 30-40% ในต้นเดือนสิงหาคม เป็น 80-90% ในช่วงกลางเดือนกันยายน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้น และมีการจัดการน้ำในระดับพื้นที่อย่างเหมาะสมเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน
รศ.ดร.สุจริต ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ฝนในปี 2567 ว่าจะมีลักษณะพิเศษที่น่าเป็นห่วง โดยฝนจะตกหนักเฉพาะบางพื้นที่ติดต่อกัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเฉพาะจุด ตัวอย่างเช่น ฝนอาจตกหนัก 2-3 วันแล้วหยุด ซึ่งเห็นได้ชัดจากเหตุการณ์น้ำท่วมบริเวณชุมชนรอบเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก
ลักษณะการตกของฝนแบบนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะในพื้นที่เมือง รวมถึงกรุงเทพมหานคร หากไม่มีการจัดการน้ำในระดับพื้นที่อย่างเหมาะสม สาเหตุของปรากฏการณ์นี้เกิดจากกลุ่มเมฆฝนที่เคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ที่มีอากาศร้อนจัด ทำให้เกิดภาวะอากาศยกตัวและเกิดฝนตกหนัก ซึ่งมักพบในเขตเมืองมากกว่าชนบท
สำหรับประชาชน ควรติดตามข่าวสารและการเตือนภัยในพื้นที่ท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันมีการพัฒนาระบบเตือนภัยที่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ 2-3 วัน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากปีนี้มีแนวโน้มที่จะเกิดน้ำท่วมจากปริมาณฝนที่มาก ทั้งจากน้ำที่ไหลลงมาจากทางเหนือและฝนที่ตกหนักเฉพาะพื้นที่